Hollister France

Hollister France

Hollister France

Hollister France

Hollister France

Hollister

Hollister

Hollister

Hollister

Hollister

Hollister

Hollister

Woolrich Outlet

Woolrich

hogan

hogan

hogan

Hogan Sito Ufficiale Hogan Scarpe Hogan Outlet Hogan Scarpe Hogan Hogan Scarpe Hogan Interactive Hogan Donna Scarpe 2013 Hogan Scarpe Outlet Hogan Vendita Hogan Hogan Scarpe 2013 Hogan Scarpe Hogan Scarpe Hogan Hogan Outlet Hogan Scarpe Outlet Hogan Scarpe Donna Hogan Scarpe Hogan Outlet Scarpe Hogan Hogan Sito Ufficiale Scarpe Hogan2013 Hogan Hogan Scarpe Donna Hogan Scarpe Donna Hogan Interactive Hogan 2013 Hogan Online Hogan Italia Hogan Scarpe
woolrich ASK Hollister Hollister abercrombie abercrombie abercrombie abercrombie woolrich parka Hollister Holliter France Hollister Hollister France Magasin Vetement Hollister Hollister Soldes Hollister Pas Cher Pas Cher Hollister Hollister Vente Hollister En ligne Hollister 2013 Hollister France Hollister France 2013 Hollister Hollister Hollister Magasin Hollister Vente Hollister Homme Hollister Pas Cher Hollister T Shirts Hollister Paris Boutique Hollister Vetements Boutique Hollister Pas Cher Pas Cher Hollister Hollister Hommes Hollister France Vente Hollister Hollister sortie 2013 Pas Cher Hollister Hollister Pas Cher
บทสัมภาษณ์ - บุญสม เล้าสุวรรณ
วันที่ 7 ตุลาคม 2551 เวลา 12.45
สถานที่ มูลนิธิ 14 ตุลา
ตามโครงการของมูลนิธิ 14 ตุลา ในการรวบรวมปากคำของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลเพื่อการศึกษาต่อไป


ผู้สัมภาษณ์: ตอนนี้พี่บุญสมทำอะไรอยู่ครับ
คุณบุญสม :
ไม่ได้ทำ ตอนนี้ผมป่วยเป็นมะเร็ง

ผู้สัมภาษณ์ : บริเวณไหนครับ
คุณบุญสม :
ลำไส้ใหญ่ ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ โดยฉีดคีโม ทุกเดือน

ผู้สัมภาษณ์ : เป็นมานานหรือยังครับ
คุณบุญสม :
เป็นมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ผ่าเอาลำไส้ออกไปแล้วตอนนี้มันลาม ผมเป็นระยะที่สามแล้ว หมอบอกมันลามไปไตแล้ว หมอบอกต้องไปเลเซอร์พรุ่งนี้

2 วันนั้นผมโทรมาทีหนึ่งไม่รู้ใครรับบอกว่าเป็นเลขา ก็โดนวันที่ 14 – 15 ตุลา เขาบอกว่าเขาโดนยิงเขาบอกว่าวันนั้นทำไมพี่ไม่มาที่บ้านมนังคสิลาสมัยรัฐบาลทักษิณให้คนละสองล้าน เขาบอกว่าเขาได้รับสองล้าน ผมก็คนทำมาหากินเลยไม่ค่อยได้สนใจ แต่เคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งมีผู้ชายสองคนผู้หญิงคนหนึ่งผู้ชายเขาได้รับบาดเจ็บเขาให้มาทำงาน ส่วนผู้หญิงลูกเขาโดนยิงตาย เขาก็ทำประวัติผมไว้วันนั้นผมโทรมาเห็นว่าคนที่ได้รับสองล้านเขาออกไปหมดแล้ว ผมบอกประวัติผมก็ยังอยู่ที่นี่

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วก่อนหน้านั้นพี่บุญสมทำอะไรก่อนไปบวช
คุณบุญสม :
ก็ผมจบนิติศาสตร์ก็เป็นผู้ช่วยแต่ยังไม่ได้ใบทนายความ จบที่

ผู้สัมภาษณ์ : ที่ธรรมศาสตร์เหรอครับ
คุณบุญสม :
ไม่พบจบที่ราม ตั้งแต่อายุ 25

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนปี 16 พี่อยู่ที่ไหน
คุณบุญสม :
ที่อยู่ตอนนั้น 429/10 ซอยอ่อนนุช 1 พระขโนง

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นอายุ 25 ปีแล้ว
คุณบุญสม :
ผมเกิด พ.ศ. 2491

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นพี่ทำงานอะไรอยู่ครับ
คุณบุญสม :
รับจ้างทั่วไป

ผู้สัมภาษณ์ : พี่เข้าร่วมการชุมนุมตั้งแต่เริ่มต้นเลยหรือเปล่า ตั้งแต่ที่ธรรมศาสตร์เลยหรือเปล่า
คุณบุญสม :
ครับผมรู้สึกว่าผมเข้าร่วมตั้งแต่วันที่ 14 ผมก็ยึดรถเมล์ ใครก็ไม่รู้เป็นหัวหน้า บอกว่าไปไปไปเอารถเมล์ไปรับคนแถบชานเมืองมาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผมก็ขับรถเมลกันทั้งคืน ผลัดกันขับ เติมน้ำมันก็เติมฟรี มันสนุกอ่ะเรียกง่าย ๆ กินข้าวทีชาวบ้านก็เรียกมาน้อง ๆ มายกให้หนึ่งเป็นเข่งเลย สนุกกันทั้งคืน ใครที่ขึ้นมาบนรถเมลผมก็พาไปส่งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ผู้สัมภาษณ์ : เป็นช่วงไหนของวันที่ 14 ครับ
คุณบุญสม :
ช่วงเย็น ๆ ตอนกลางคืน

ผู้สัมภาษณ์ : ช่วง 14 ต่อ 15 อันนี้คือรู้ว่ามีการปราบปรามนักศึกษา มีความรุนแรงที่สนามหลวงที่ราชดำเนินแล้ว
คุณบุญสม :
ก็รู้แล้วว่าเหตุการณ์ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีการยิงปืน และมีความวุ่นวาย แถวราชดำเนินนี่ไฟลุก รถเมล์ถูกเผาทั้งคัน

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วตอนนั้นอยู่ไหน ก่อนที่จะได้ยินข่าว
คุณบุญสม :
มาจากบ้านในวันที่ 14 ตอนเย็นๆ แล้วมาที่ถนนราชดำเนิน แล้วมีคนบอกว่าเอารถไปรับคน แล้วก็นึกสนุกก็เลยไปช่วยเขา

ผู้สัมภาษณ์ : หมายถึงก่อนหน้า วันที่ 14 ไม่ได้ร่วมชุมนุมที่ มธ.
คุณบุญสม :
ผมออกมาวันที่ 14 เลย คือคิดว่าอยากจะมาดูเหตุการณ์ ว่ามันเป็นอย่างไร ไม่ได้คิดว่าจะมาร่วม

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นขับรถเมล์จากไหนไปรับคนจากไหนบ้าง แล้วเอารถมาจากไหนครับ
คุณบุญสม :
ตอนนั้นขับไปทั่วกรุงเทพฯ ขับทั้งคืนเลย ขับไปทั่วแล้วเอามาส่งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วรถเมล์เอามาจากไหน หรือมันจอดอยู่เฉยๆ
คุณบุญสม :
ตอนนั้นก็ขอเขาเฉยๆ คนขับก็ยอมลงแต่โดยดี น้ำมันก็เติมฟรี เขากลัวว่าพวกผมจะไปพังปั๊มเขา เลยให้เติม ยังถามพวกผมเลยว่าจะไปสู้เขาได้เหรอ เขามีปืนนะผมบอกผมก็ไม่รู้ ผมก็ขับไปเรื่อยแหละ

ตอนนั้นมาได้ยินในธรรมศาสตร์ เขาบอกว่าให้ผมไปเอารถเมล์มาแล้วไปเอาคนมาแถวๆ รอบชานเมืองมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผมก็ไปเลย ไปหัวหมากบ้าง ไปมีนบุรีบ้าง ฝั่งธนฯ บ้าง ขับกันทั้งคืนใครขับเป็นก็เปลี่ยนขึ้นไปขับ ข้าวก็กินฟรี ผ่านร้านค้า เขาก็ยกมาให้เป็นเข่ง คือไม่ได้คิดอะไร มันสนุก ก็ขับกันทั้งคืนเลย

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วขับไปเจอทหารบ้างไหมครับ
คุณบุญสม :
ก็เจอที่บางหว้านี่แหละ ไปแถวบางแค รู้สึกจะเป็นสะพานบางหว้า ตอนนั้นคิวผมขับพอดี พุ่งเข้าชนเลย รถยีเอ็มซี ผมก็สลบคาพวกมาลัยรถ ไม่รู้เรื่องเลย ก็มีคนพามาที่รพ.ศิริราช

ผู้สัมภาษณ์ : พี่สลบช่วงวันที่ 14
คุณบุญสม :
ไม่ใช่ครับ วันที่ 15 ช่วงบ่ายสาม บ่ายสี่

ผู้สัมภาษณ์ : หมายถึง พี่ขับมาตั้งแต่ 14-15 เลย
คุณบุญสม :
ผมก็ขับอยู่บนรถนี่แหละ ขับตั้งแต่ 14 เลย ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ผมก็นั่งอยู่ บางคนที่มาขับผลัดกับผม ยังไม่รู้จักกันเลย

ผู้สัมภาษณ์ : ส่วนใหญ่ที่อยู่บนรถเป็นเพื่อนๆ กันหรือเปล่าครับ
คุณบุญสม :
ไม่รู้จักเลย ขับไปเจอใคร อยากขึ้นก็ขึ้น ใครอยากขับก็ได้ ก็ไปรับคนแล้วเพิ่งมาคุยมารู้จักกันในรถ

ผู้สัมภาษณ์ : พี่สลบไปนานไหมครับ
คุณบุญสม :
เกือบคืน รู้ตัวก็วันที่ 16 แล้ว

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนออกจากบ้านมาคนเดียวเลยใช่ไหมครับ แล้วช่วงนั้น ช่วงเช้าวันที่ 15 แถบชานเมือง นอกจากราชดำเนินมีทหารอยู่บ้างไหมครับ
คุณบุญสม :
ผมไม่เห็นนะ เห็นแถวบางแค ถ้าเจอที่อื่นผมคงเรียบร้อยไปแล้ว ผมก็ขับไปเรื่อยๆ แถวมีนบุรี แถวรอบๆ ชานเมือง

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นเขายิงตรงไหนครับ
คุณบุญสม :
เขาไม่ได้ยิงครับ เขาชนเลย

ผู้สัมภาษณ์ : เป็นรถแบบไหนครับ
คุณบุญสม :
เป็นรถทหาร

ผู้สัมภาษณ์ : รถทหารยีเอ็มซี
คุณบุญสม :
ครับ

ผู้สัมภาษณ์ : ชนด้านหน้าเลยหรือครับ
คุณบุญสม :
ด้านหน้าเลย ประสานงานเลยครับ

ผู้สัมภาษณ์ : พี่คิดว่าเขาจงใจ หรือเป็นอุบัติเหตุครับ
คุณบุญสม :
เขาจงใจชน เพราะผมขับในเลนส์ของผม แล้วเขาก็จี้เข้ามาในเลนส์ของเรา ตอนนั้นขับมุ่งหน้าไปทางบางแค รู้สึกะจะช่วงเอกพันธ์-บางหว้า

ผู้สัมภาษณ์ : แต่ตอนที่ขับเข้าราชดำเนินไม่มีอันตรายอะไรใช่ไหม
คุณบุญสม :
ไม่มี โดนที่บางแคที่เดียว

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วบรรยากาศช่วงกลางคืน 14 ตุลาเป็นอย่างไรบ้างครับ
คุณบุญสม :
บางที่ไปก็เงียบ ไม่มีคน รู้สึกว่าประชาชนก็กลัว อย่าพวกปั๊มก็ปิด บ้านช่องก็ปิด มันเงียบเหงา มันเกิดเหตุการณ์น่ะ อย่างไอ้ร้านปืน แถวพาหุรัด ยิ่งปิดไวเลย กลัวไปเอาปืนมาสู้กับพวกรัฐบาล

ผู้สัมภาษณ์ : คนเยอะหรือเปล่าในช่วงกลางคืนที่ขับไป
คุณบุญสม :
ก็มีไม่มากครับ บางคนก็ขึ้นบางคนก็ไม่ขึ้น

ผู้สัมภาษณ์ : พอจะประมาณได้ไหมครับ ว่ารับไปกี่คน
คุณบุญสม :
กลางคืนจะน้อย แต่กลางวันแน่นเลย ก็ขับไปเรื่อย ได้คนซักพักก็ตีเข้ามาอนุสาวรีย์ฯ เลย

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นมีอภิปราย ที่อนุสาวรีย์ฯ ด้วยใช่ไหม
คุณบุญสม :
มีครับ

ผู้สัมภาษณ์ : เป็นใครอภิปรายครับ
คุณบุญสม :
ตอนนั้นผมไม่รู้ ผมไม่ได้สนใจ ตอนนั้นน่าจะเป็นพวกนักศึกษา พอมาถึงอนุสาวรีย์ฯ ผมก็ขับออกไปเลย เพราะไอ้แถวมธ.เขาบอกไง ว่าไปยึดรถเมล์ให้ไปรับคนแถวๆ ชานเมือง

ผู้สัมภาษณ์ : หมายถึงพี่มาจากบ้านแล้วเข้ามธ.เลย ก็ได้เจอกันคนๆ นั้นบอกให้ไปเอารถเมล์ไปรับคนมาฟังอภิปราย พี่เลยเอารถเมล์ออกไปเลย ?
คุณบุญสม :
ครับ

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นมธ. คนยังเยอะไหมครับ
คุณบุญสม :
เยอะครับ เป็นจุดศูนย์รวมเลย

ผู้สัมภาษณ์ : ช่วงที่ไปถึงมธ.ช่วงกี่โมง
คุณบุญสม :
ประมาณ 4-5 โมง

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นคนยังเยอะ
คุณบุญสม :
เยอะครับเพราะเป็นศูนย์ใหญ่เลย ใครมาก็ต้องมาที่มธ. ก่อน

ผู้สัมภาษณ์ : รักษาตัวมานานหรือยังครับ
คุณบุญสม :
5 เดือนแล้วครับ ตอนนนี้รักษาอยู่ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติครับ ช่วงหลังทำงานไม่ได้ เพราะฉีดแล้วไม่มีแรง นี่ผมเอาเอกสารที่ไดรับเงินจากศูนย์นิสิตฯ ที่ได้รับเงิน 800 บาท

ผู้สัมภาษณ์ : หลังจากจบเหตุการณ์ แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ กลับไปทำงานเดิม ชีวิตเปลียนไปหรือเปล่า
คุณบุญสม :
ก็ธรรมดาครับ ก็ไปทำงาน แล้วมาเจอ ตุลา 19

ผู้สัมภาษณ์ : ช่วงมีงานศพปี 17 พี่ได้ไปหรือเปล่าครับ
คุณบุญสม :
ไม่ได้ไปร่วมเลย

ผู้สัมภาษณ์ : แต่ได้ยินข่าวใช่ไหมครับ ว่าจะมีการพระราชทานเพลิงศพ
คุณบุญสม :
ก็ได้ยินข่าว แต่ไม่ได้ไป

ผู้สัมภาษณ์ : ช่วงนั้นรถทหารยังเยอะไหมครับ หมายถึงทหารตามที่อื่นๆ
คุณบุญสม :
ผมก็มาแถวราชดำเนิน ก็มีรถยีเอ็มซี ตรึงกำลังอยู่ แต่ไม่ได้ยิง มีแถวประชาสัมพันธ์เก่า ตั้งเป็นบังเกอร์ แล้วก็ยังมีแถวกองบัญชาการตร.นครบาล ที่ยิงจากบนตึกลงมา แต่ตอนนี้รื้อไปแล้ว แถวราชดำเนินที่ผมขับผ่านรถเมล์ก็ถูกเผาสองสามคัน แต่แถวอนุสาวรีย์ฯ แถวรอบๆ ประชาธิปไตยนั้นแหละมีคนมาฟังเยอะ

ผู้สัมภาษณ์ : รู้สึกกลัวบางไหมครับตอนเห็นทหาร
คุณบุญสม :
ไม่กลัว ครับ รู้สึกสนุกมากกว่า กินก็มีกิน ขับรถไปเรื่อยๆ เอาข้าวเอาผลไม้เป็นเข่งมาให้เรากิน กินกันบนรถ เฮฮา แต่เหล้าไมมีกินนะ

ผู้สัมภาษณ์ : ที่บอกว่ามีอภิปรายที่อนุสาวรีย์ฯ มีตลอดทั้งคืนหรือเปล่า
คุณบุญสม :
มีทั้งคืนเลย คนเยอะเลย มีรถเมล์หลายคันเอาคนมาลงเลย

ผู้สัมภาษณ์ : หลังจากเหตุการณ์ รู้สึกว่าสังคมไทยเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
คุณบุญสม :
ผมก็ไม่คนได้สนใจนะ ผมก็ต้องทำงาน เหตุการณ์จบก็จบไป เห็นสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกฯ ก็นึกว่าจะดีแล้ว เราก็ต้องหากิน เขาไม่ได้บอกว่าจะมีการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ นี่ไปนี่ได้มาแปดร้อยนี่

ผู้สัมภาษณ์ : คือ 800 นี่
คุณบุญสม :
ตอนแรกเราก็ไม่รู้นะว่ามีการช่วย เขาบอกว่าเจ็บในช่วง 14-15 นะ ไปหาศูนย์นิสิตฯเลย

ผู้สัมภาษณ์ : พูดได้ว่าเป็นความช่วยเหลือเดียวที่ได้รับ
คุณบุญสม :
ใช่ครับ ถ้าไม่ไปฉีดยาตามหมอนัดก็ไม่รู้ว่ามีการช่วยเหลือ

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นพี่ทำงานอยู่แถวพระขโนงหรือครับ
คุณบุญสม :
ครับ


ต่อจากนี้เป็นต้นไปกลายเป็นการบอกเล่าโรคของผู้ให้สัมภาษณ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องส่วนตัว จึงไม่ทำการถอดบันทึกการสัมภาษณ์