ยังตึงเครียด
เวลา 00.30 น. ภายหลังจากลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว จอมพลถนอม
กิตติขจร ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังคงออกแถลงการณ์ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกและวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยว่า
มีผู้ที่พยายามจะนำลัทธิการปกครองอื่นที่เลวร้ายมาล้มล้างการปกครองแบบประชาธิปไตย
จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่จนสุดความสามารถ
ตลอดทั้งคืน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนยังคงยืนหยัดชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นจำนวนมาก
ที่บริเวณกองบัญชาการตำรวจนครบาลผ่านฟ้า เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ประชาชนก็ปะทะกับตำรวจทหารอยู่เป็นระยะ
การจลาจลขยายขอบเขตออกไปทั่วกรุงเทพฯ ขณะที่ศูนย์ปวงชนชาวไทยได้พยายามประกาศให้หยุดการยิงต่อสู้กันและยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่เพื่อให้สถานการณ์สงบลง
จนกระทั่งถึงเช้า ประชาชนได้มาสมทบที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมากขึ้นเรื่อย
ๆ ถนนทุกสายในกรุงเทพฯ เกลื่อนกลาดไปด้วยถังขยะเทศบาล เศษแก้ว เศษไม้
ซากป้อมตำรวจ ซากรถที่ถูกเผา สัญญาณไฟจราจรถูกทำลาย ส่วนทางต่างจังหวัด
มีการชุมนุมเพื่อไว้อาลัยแกผู้เสียชีวิตและโจมตีความโหดร้ายของรัฐบาลเก่า
รวมทั้งมีการบริจาคเลือดเพื่อส่งมาให้โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ
และเมื่อเวลา 08.15 น. สถานีวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ก็ได้กระจายเสียงประกาศของนายสัญญา
ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ให้ราชการในกรุงเทพฯ หยุดเป็นเวลา 3 วัน
เหตุการณ์ยังคงตึงเครียด ทหารส่งกำลังเข้ามาเสริมตามจุดต่าง ๆ ที่มีการจลาจล
ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วกรุงเทพฯ ไม่ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ แต่ตั้งรับอยู่ในแต่ละสถานีโดยไม่ได้สวมเครื่องแบบตำรวจ
หลายโรงพักถูกปล่อยร้าง
ฝ่ายกลุ่มประชาชนซึ่งยึดรถเมล์ได้ ก็ขับรถออกวิ่งไปตามถนนสายต่าง ๆ
พร้อมกับร้องเพลงปลุกใจและโบกธงชาติ ขณะที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยคนนับพันยังคงชุมนุมกันอยู่
โดยมีนักศึกษาผลัดกันขึ้นพูดให้เหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ สงบลง ตามโรงพยาบาลทุกแห่ง
แพทย์และพยาบาลต้องทำงานอย่างหนัก คนเจ็บและเสียชีวิตถูกนำมาส่งทุกระยะ
จนไม่มีที่ว่างเหลือ ทุกโรงพยาบาลประกาศขอรับบริจาคเลือดและเงิน ซึ่งก็มีประชาชนไปบริจาคอย่างคับคั่ง
ทหารประกาศปราบคอมมิวนิสต์
แต่แล้วเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. กองบัญชาการทหารสูงสุดกลับออกประกาศว่าผู้ก่อการจลาจลไม่ใช่นิสิตนักศึกษา
แต่เป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ อย่าเชื่อข่าวลือที่ว่าทหารตำรวจทำร้ายนิสิตนักศึกษา
และขอให้ประชาชนแยกออกจากผู้ก่อการจลาจล เพื่อที่ราชการจะได้ปราบปรามคอมมิวนิสต์ให้สิ้นซากโดยเร็ว
ระหว่างนั้น เลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยพร้อมกับกรรมการและเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ
ได้เข้าพบนายสัญญา ธรรมศักดิ์ ที่พระราชวังสวนจิตรลดา เพื่อปรึกษาถึงวิธีการแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน ทางด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาลผ่านฟ้า ประชาชนได้ช่วยกันปาระเบิดเพลิงเข้าไปจนถูกไฟไหม้อย่างหนัก
จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องถอนกำลังออกไป จากนั้นก็มีประชาชนบุกเข้าไปเผาสถานีตำรวจนางเลิ้งซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันด้วย
คลี่คลาย
ช่วงเที่ยง ประชาชนหลายหมื่นคนได้เดินทางมาชุมนุมกันในบริเวณถนนราชดำเนินกลางอย่างแน่นขนัด
เพื่อมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่กองบัญชาการปราบปรามจลาจล สวนรื่นฤดี จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส
จารุเสถียร และ พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร ได้ตัดสินใจที่จะเดินทางหนีออกนอกประเทศ
เนื่องจากเกิดความขัดแย้งอย่างหนักในรัฐบาล และในหมู่ทหารตำรวจ
ถัดมาเวลา 14.10 น. สถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ได้กระจายเสียงประกาศของกองบัญชาการทหารสูงสุด
ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานในเวลากลางคืน เพื่อสะดวกในการปราบปรามจลาจล
ขณะเดียวกัน กรรมการศูนย์กลางนิสิตฯ ก็ได้แบ่งกันออกไปพูดกับประชาชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและตามชุมชนต่าง
ๆ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์และให้สลายตัวโดยเร็วที่สุด และกรรมการฯ
อีกส่วนหนึ่งไปติดต่อโรงพิมพ์สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้พิมพ์เจตจำนงของนายสัญญา
ธรรมศักดิ์ รวมกับแถลงการณ์ของศูนย์กลางนิสิตฯ ถึงประชาชน เพื่อชี้แจงสถานการณ์และสนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่
จนกระทั่งเวลา 18.40 น. วิทยุกรมประชาสัมพันธ์ได้ประกาศข่าวการลาออกจากราชการและการเดินทางออกนอกประเทศของถนอม-ประภาส
หลังจากข่าวแพร่สะพัดออกไป ประชาชนต่างก็โห่ร้องยินดีและเริ่มทยอยกันกลับบ้าน
ประภาส-ณรงค์ ลี้ภัยการเมือง
เมื่อสถานการณ์เริ่มสงบลง นายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์และวิทยุในเวลา
20.45 น. ถัดจากนั้นกรรมการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยก็ปราศรัยสดุดีวีรกรรมของประชาชนและขอให้ผนึกกำลังกันเพื่อพิทักษ์รักษาสิ่งที่ได้มาให้ยั่งยืนต่อไป
จากนั้นจอมพลประภาส พ.อ. ณรงค์ พร้อมครอบครัวและผู้ติดตามจึงได้เดินทางลี้ภัยการเมืองโดยเที่ยวบินพิเศษ
มุ่งหน้าไปกรุงไทเป เกาะใต้หวัน เมื่อเวลา 21.47 น. ส่วนจอมพลถนอมนั้นเดินทางตามไปในวันรุ่งขึ้น
เวลา 22.00 น.
ผลจากเหตุการณ์รุนแรงตลอดวันที่ 14-15 ตุลาคม 2516 ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตถึง
77 คน และบาดเจ็บอีก 857 คน
|