สามัคคีประชาชน
      ตามจุดต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ มีหน่วยอาสาสมัครแพทย์และพยาบาล เปิดศูนย์บริจาคโลหิตชั่วคราวขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์วันที่ 14-15 ตุลาคม
      นอกจากนี้ ณ ที่ทำการชั่วคราวของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ตรงสนามเสือป่า ประชาชนได้หลั่งไหลไปร่วมบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อเป็นกองทุนสงเคราะห์วีรชนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ร่วมทั้งเป็นทุนในการก่อสร้างอนุสาวรีย์วีรชนด้วย
      ทางด้านต่างจังหวัด นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนก็ได้ร่วมบริจาคเงินและสิ่งของต่าง ๆ ส่งมาสมทบที่ศูนย์นิสิตฯ ตลอดเวลา ส่วนทางด้านต่างประเทศ ก็มีคณะนักเรียนไทยส่งเงินบริจาคมาช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย
      และที่สวนรื่นฤดี เวลา 14.00 น. คณะกรรมการบริหารศูนย์นิสิตฯ ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล เพื่อร่วมมือในการรักษาความสงบในขณะที่ตำรวจไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่โดยสวมเครื่องแบบได้ เนื่องจากประชาชนยังเกลียดตำรวจอยู่ ซึ่งศูนย์นิสิตฯ จะส่งนิสิตนักศึกษาไปประจำสถานีตำรวจที่ราชการเห็นสมควร สถานีละ 10 คน เพื่อร่วมกับตำรวจ นอกจากนี้ ศูนย์นิสิตฯ กับรัฐบาลได้ตั้งศูนย์ประสานงานร่วม นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ (ศ.ป.น.) ขึ้นที่กองอำนวยการรักษาความสงบ สวนรื่นฤดี จนกว่าบ้านเมืองจะกลับเข้าสู่ภาวะสงบโดยสมบูรณ์

นิรโทษกรรมและเตรียมร่างรัฐธรรมนูญ
      ที่ทำเนียบรัฐบาล คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้ประชุมเป็นครั้งแรกเมื่อเวลา 17.30 น. โดยมีมติให้ออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ชุมนุมระหว่างวันที่ 14-15 ตุลาคม 2516 และมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่
      หลังจากนั้นสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยก็ได้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีให้ข้าราชการปฏิบัติงานและให้สถานศึกษาเปิดทำการสอนตามปกติตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2516 เป็นต้นไป

เผด็จการถนอมลี้ภัย
      ทางด้านจอมพลถนอม กิตติขจร ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อลี้ภัยการเมืองไปที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตต์ สหรัฐอเมริกา พร้อมครอบครัว ในเวลาประมาณ 21.40 น.
      ส่วนข่าวการต่อสู้ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนชาวไทยครั้งนี้ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกมุมโลก สร้างความตกตะลึงแก่ชาวโลกเป็นอย่างยิ่ง และยังถูกนับถือเป็นตัวอย่างในการต่อสู้กับเผด็จการจากขบวนการนักศึกษาในหลายประเทศ